บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง การพัฒนาการเรียนรู้ตามรูปแบบซิปปา (CIPPA Model) เรื่อง สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์
ผู้วิจัย นางพรพิมล พาณิชย์ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
สถานศึกษา โรงเรียนเมืองสมเด็จ อำเภอสมเด็จ สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์
ปีที่วิจัย พ.ศ. 2562
การวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์คือ (1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาและแนวทางการพัฒนาการเรียนรู้ตามรูปแบบซิปปา (CIPPA Model) เรื่องสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว สำหรับนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ (2) เพื่อสร้างและทดลองใช้การเรียนรู้ตามรูปแบบซิปปา (CIPPA Model) เรื่อง สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ (3) เพื่อศึกษาผลการพัฒนาการเรียนรู้ตามรูปแบบซิปปา (CIPPA Model) เรื่อง สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เกี่ยวกับประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 ดัชนีประสิทธิผลตามเกณฑ์ 70 เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการเรียนรู้ และความคงทนในการเรียนรู้ หลังเรียน 2 สัปดาห์ และ (4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการพัฒนาการเรียนรู้ตามรูปแบบซิปปา (CIPPA Model) เรื่อง สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการวิจัย คือ (1) สภาพปัญหาและแนวทางการพัฒนา คือ เอกสารที่เกี่ยวข้องด้วยการสัมภาษณ์นักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 1 จำนวน 40 คน ครูโรงเรียนเมืองสมเด็จ จำนวน 12 คน เครื่องมือสำหรับการวิจัย คือ แบบบันทึกเอกสารและสรุปความ แบบสัมภาษณ์นักเรียนและครูผู้สอน (2) แหล่งข้อมูลที่ใช้ ในการสร้างและการทดลองใช้การเรียนรู้ คือ ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน นักเรียนที่ใช้ในการสร้างและทดลองใช้ทั้งแบบรายบุคคลหรือแบบเดี่ยว จำนวน 3 คน แบบกลุ่มเล็ก จำนวน 9 คน และแบบกลุ่มใหญ่ จำนวน 31 คน จากนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 โดยใช้เครื่องมือ คือ แผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบซิปปา (CIPPA Model) จำนวน 16 แผน แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ 16 เล่ม และแบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ (3) แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการพัฒนาการเรียนรู้จริง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 จำนวน 29 คน ใช้เครื่องมือเหมือนกับขั้นการทดลองใช้ เรื่องละ 1 ชั่วโมง รวมเวลาเรียน 16 ชั่วโมง (4) แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการประเมินความพึงพอใจของนักเรียน คือ ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน เพื่อตรวจสอบความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 จำนวน 29 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม ใช้เครื่องมือ คือ แบบสอบถามความพึงพอใจ จำนวน 20 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าประสิทธิภาพ และการทดสอบค่า t (Dependent samples) ผลการวิจัยปรากฏ ดังนี้
- สภาพปัญหาและแนวทางการพัฒนา พบว่า เนื้อหาที่เป็นปัญหามากที่สุดคือ เรื่อง สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว มากที่สุด ผู้เรียนส่วนใหญ่ไม่ชอบเรียนวิชาคณิตศาสตร์
ขาดความใส่ใจจากผู้ปกครอง ความรู้ความสามารถตรงกับวิชาเอกที่สอน ครูส่วนใหญ่สอนตรงสาขากับวิชาเอกร้อยละ 70 แต่คาบสอนมากเกิน 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และมีงานพิเศษค่อนข้างมาก แนวทางแก้ไขปัญหา คือ ครูคณิตศาสตร์ควรมีการพัฒนาการเรียนการสอน โดยนำทฤษฎีการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบซิปปา (CIPPA Model) และแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์มาใช้ เพราะเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง โดยผู้เรียนมีส่วนร่วมมากที่สุด - การสร้างและทดลองใช้รูปแบบการเรียนรู้ตามรูปแบบซิปปา (CIPPA Model) โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ มีองค์ประกอบที่สำคัญ คือ หลักการของรูปแบบ วัตถุประสงค์ของรูปแบบ กิจกรรมการเรียนรู้ และการประเมินผลการเรียนรู้ เมื่อนำไปทดลองใช้ด้วยรูปแบบการสอน พบว่า (1) การทดลองใช้แบบหนึ่งต่อหนึ่ง มีประสิทธิภาพเท่ากับ 77.29/76.67 ต่ำกว่าเกณฑ์ 80/80 จึงควรนำไปปรับปรุงแก้ไขรูปแบบการสอน (2) การทดลองใช้แบบกลุ่มเล็ก มีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.81/80.37 ต่ำกว่าเกณฑ์ 80/80 ควรปรับปรุงแก้ไขอีกครั้ง และ (3) การทดลองใช้แบบกลุ่มใหญ่ มีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.06/82.58 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80 แสดงว่า สามารถนำรูปแบบการเรียนรู้ตามรูปแบบซิปปา (CIPPA Model) และแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ ไปใช้สอนจริงได้อย่างมีคุณภาพ
- ผลการพัฒนาการเรียนรู้ตามรูปแบบซิปปา (CIPPA Model) โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ พบว่า (1) มีประสิทธิภาพเท่ากับ 86.08/85.97 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80 (2) มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.7636 แสดงว่า นักเรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนรู้เพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 76.36 สูงกว่าเกณฑ์ 70 และประสิทธิผลอยู่ในระดับดี (3) นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และ (4) นักเรียนมีความคงทนในการเรียนรู้ โดยนักเรียนมีคะแนนลดลงเพียงร้อยละ 0.34
- นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการพัฒนารูปแบบการสอน โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ โดยภาพรวมและรายด้าน 4 ด้าน มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด รายด้านเรียงค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย คือ ด้านการได้รับความรู้จากรูปแบบการสอน ด้านรูปแบบการสอน ด้านบรรยากาศในการเรียนรู้ของนักเรียน และด้านแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์